ขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวีในประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง
![]() | |
ท่านพระโอภาสธรรมญาณ ได้เป็นผู้กำหนดให้มีงานบุญประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2481 และในปี พ.ศ. 2534 จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกับกรมศิลปากรและการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย ได้จัดประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งสืบทอดงานประเพณีเดิมให้มีความยิ่งใหญ่ตระการตา เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ โดยนำข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับกษัตริย์ ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งมาเรียงร้อยเป็นเรื่องราวจำลองภาพขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ซึ่งเดินทางมาจากเมืองพระนครหลวง (ประเทศกัมพูชา) มายังเทวาลัยพนมรุ้ง ซึ่งนอกจากข้าทาสบริวารผู้ติดตามขบวนขบวนมาด้วย เพื่อถวายเทวสักการะแด่เทพเจ้าผู้พิทักษ์ทั้งสิบแห่งจักรวาล และ พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ผู้เป็นพระมารดาให้จัดหาพาะและวัวนมอีกอย่างละ 100 ตัว เพื่อถวายแด่ มหาฤๅษีนเรนทราทิตย์
นอกจากนี้ยังมีขบวนแห่เทพพาหนะทั้ง 10 ทิศ ประกอบด้วย
ขบวนที่ 1 หงส์ พาหนะของพระพรหม เป็นเทพเจ้าประจำทิศเบื้องบน
ขบวนที่ 2 ช้าง พาหนะของพระอินทร์ เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันออก
ขบวนที่ 3 วัว พาหนะของพระอิสาน เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันอกเฉียงเหนือ
ขบวนที่ 4 แรด พาหนะของพระอัคนี เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันออกเฉียงใต้
ขบวนที่ 5 คชสีห์ พาหนะของพระกุเวร เป็นเทพเจ้าประจำทิศเหนือ
ขบวนที่ 6 นกยูง พาหนะของพระขันธกุมาร เป็นเทพเจ้าประจำทิศใต้
ขบวนที่ 7 นาค พาหนะของพระวิรุณ เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันตก
ขบวนที่ 8 ม้า พาหนะของพระพาย เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ขบวนที่ 9 รากษส พาหนะของพระนิรฤติ เป็นเทพเจ้าประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้
ขบวนที่ 10 กระบือ พาหนะของพระยม เป็นเทพเจ้าประจำทิศเบื้องล่าง
![]() |
พราหมณ์ผู้ทำหน้าที่เป่าสังฆ์ใช้ผู้ที่เป็นพราหมณ์จริงๆมาทำการแสดง |
ขบวนแห่เทพเจ้าประจำทิศทั้ง 10 ขบวนเรียงตามลำดับ โดยในแต่ละขบวนมีข้าทาส บริวารหญิง ชาย จำนวนมากมาย ร่วมในขบวนแห่เพื่ออัญเชิญเครื่องบูชาสักการะเทพเจ้าแต่ละทิศ ผู้ร่วมขบวนแห่แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองที่ดูละม้ายคล้ายกับที่ปรากฏอยู่ในภาพจำหลักที่ปราสาทพนมรุ้ง เป็นภาพที่งดงามด้วยสีสันตระการตายิ่ง เพียบพร้อมและอุดมสมบูรณ์ด้วยเครื่องราชสักการะบูชาครบถ้วน
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ หงส์ |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ หงส์ |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ ช้าง |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ โค |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ คชสี |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ นกยูง |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ นาค |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ ม้า |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ รากษส |
![]() |
ขบวนสัตว์พาหนะ กระบือ |
ถัดจากขบวนเทพพาหนะ ทั้ง 10 ขบวน เป็นขบวนเสด็จของพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี เคลื่อนขบวนมาโดยราชยาน พร้อมด้วยนางจริยา นางสนองพระโอษฐ์ ราชยาน ซึ่งมีชายฉกรรจ์ล่ำสันแบกหามเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ งดงามด้วยริ้วธงทิวประจำขบวน พร้อมเหล่าเครื่องประดับยศพริ้วไสวมีความอลังการดุจกาลเวลาในอดีตที่เทวาลัยพนมรุ้งมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดคลาคล่ำไปด้วยผู้ศรัทธาในองค์พระศิวะมหาเทพ ซึ่งได้รับความนับถือสูงสุดในศาสนฮินดู ลัทธิไศวนิกาย แห่งปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์
เสียงเป่าเขาสัตว์ดังก้องกังวานไปทั่วขุนเขา ท่ามกลางความเงียบสงบบนดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ขบวนเทพพาหนะทั้ง 10 ซึ่งประดิษฐ์ตกแต่งอย่างสวยงามต่างเคลื่อนเข้าสู่ทางเดินระหว่างช่องเสานางเรียง ตลอดทางจนถึงบันไดนาคราช ระหว่างทางที่ขบวนเสด็จผ่าน มีหญิงสาวยืนโปรยดอกไม้ เพื่อต้อนรับขบวนเสด็จของพระนางภูปตินธรลักษมีเทวี
![]() |
ขบวนนางกำนัลที่ทำหน้าทำนำขบวนของพระนางภูปตินธรลักษมีเทวี |
![]() |
พระนางภูปตินธรลักษมีเทวีซึ่งมีการคัดเลือกหญิงสาวจากอำเภอต่างๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์มาทำการแสดง |
อำไพ คำโท (2527 : 93, 95) ได้กล่าวไว้ในหนังสือสมบัติอีสานใต้ ครั้งที่ 3 ในเรื่อง ศิลาจารึกภาษาขอม ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง โดยได้กล่าวถึง ศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์. จารึกด้วยภาษาสันสกฤต ปรากฏอยู่ด้านที่ 1 บทที่ 8 บรรทัดที่ 15-16 มีข้อความในศิลาจารึก และคำแปลที่กล่าวถึงพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ดังต่อไปนี้
บทที่ 8
(บรรทัดที่ 15) ภูภฺฤทฺภวานฺยภวา ภุวิ ภูปตนฺทฺรลกษฺมีรฺ วภูว ภูวนภิมตา ภวฺานี
(บรรทัดที่ 16) ศฺรีสูรฺยยปิตฺรนุภาวา จตุรนฺ นเรนฺทฺรา ทิตฺยาภิทํ (ต) มฺ อสุฤชชฺ ชคทินฺทุวิมฺวมฺ
คำแปลบทที่ 8
ภูปตนทรลักษมี ถือกำเนิดในราชสกุลวงศ์ นางได้รับความนับถือจากบุคคลทั้งหลายว่าเป็นอวตาร (ภวานี) เป็นผู้ประกอบด้วยคุณลักษณะแห่งพระบิดา คือ พระเจ้าสูรย (วรมัน) นางได้ให้กำเนิดแก่ นเรนทราทิตย์ ผู้คล่องแคล่ว และเปรียบเสมือนดวงจันทร์ สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
หลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ที่ปรากฏในศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้ง ได้มีการศึกษาโดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี หลายท่าน อาทิ ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดย์, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี, ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล, ศาสตาจารย์มานิตย์ วัลลิโภดม, รศ.ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์, คุณอำไพ คำโท เป็นต้น
หลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึก ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้กล่าวแสดงถึงผู้สืบเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์ ผู้ครองราชย์เมืองพระนคร (ในประเทศกัมพูชา ปัจจุบัน) มีความสัมพันธ์กับองค์นเรนทราทิตย์ ผู้ทรงสละความเป็นราชตระกูลมาบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ เขาพนมรุ้ง บทที่ 8 บรรทัดที่ 15-16 ระบุให้สันนิษฐานได้ว่า
พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี เป็นพระธิดาของกษัตริย์สูรยาวรมันที่ 2 ซึ่งครองราชย์ที่เมือง พระนคร ในระหว่างปี พ.ศ. 1655-1695 และ องค์นเรนทราทิตย์ เป็นพระโอรสขงพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ซึ่งต่อมาองค์นเรนทราทิตย์ ได้ทรงสละความเป็นราชตระกูลมาบำเพ็ญพรตเป็นโยคี โดยมีพระโอรสองค์หนึ่ง คือ เจ้าชายหิรัณยะ ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเจ้าชายหิรัณยะ คือ ผู้สร้างศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้ง หลักที่ 120
อำไพ คำโท ได้กล่าวถึง ศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้งด้านที่ 4 บทที่ 27 บรรทัดที่ 6-8 มีข้อความในศิลาจารึก และคำแปลที่กล่าวถึง องค์นเรนทราทิตย์ และหิรัณยะ ดังต่อไปนี้
บทที่ 28
(บรรทัดที่ 5) ( ศิ ) ษฺยสฺ สุตศฺ จ สุปิตุสฺ สุคุโรรฺ นเรนฺทฺรา
(บรรทัดที่ 6) ทิตฺยสย โส ยมฺ อุทิโต วรุณารุกกว
(บรรทัดที่ 7) วิงฺศตยตีตวยสา สเมติษฺฐิปตฺ ตทฺ
(บรรทัดที่ 8) หิรณฺยชนกํ ส หิรณยนามา
คำแปลบทที่ 28
ศิษย์และบุตรของนเรนทราทิตย์ ผู้เป็นบิดาที่ที่และอาจารย์ที่ดี เขาได้ถือกำเนิดมาดั่งดวงอาทิตย์ จากมหาสมุทร... และเมื่อเขาอายุพ้น 20 ปี เขาก็ได้ให้ช่างสร้างประติมากรรมรูปอันนี้เป็นรูปแห่งบิดาของเขา หล่อขึ้นด้วยทอง เขาผู้นี้นามว่า หิรัณยะ
จากหลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึกพนมรุ้ง ทำให้เป็นข้อมูลสันนิษฐานได้ว่า เจ้าชายหิรัณญะ ผู้สืบสายราชวงศ์ มหิธรปุระ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างอาณาจักรที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีตนับพันปีในอาณาจักร หรือแคว้นอันเป็นที่ตั้งของปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นดินแดนอันสงบสุขที่มีความโดดเด่น งดงามสูงส่งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี มอบไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าให้รุ่นลูกรุ่นหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกลุ่มชนที่อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดในดินแดนที่เคยปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มหิธรปุระแห่งเมืองพนมรุ้ง
บทที่ 8
(บรรทัดที่ 15) ภูภฺฤทฺภวานฺยภวา ภุวิ ภูปตนฺทฺรลกษฺมีรฺ วภูว ภูวนภิมตา ภวฺานี
(บรรทัดที่ 16) ศฺรีสูรฺยยปิตฺรนุภาวา จตุรนฺ นเรนฺทฺรา ทิตฺยาภิทํ (ต) มฺ อสุฤชชฺ ชคทินฺทุวิมฺวมฺ
คำแปลบทที่ 8
ภูปตนทรลักษมี ถือกำเนิดในราชสกุลวงศ์ นางได้รับความนับถือจากบุคคลทั้งหลายว่าเป็นอวตาร (ภวานี) เป็นผู้ประกอบด้วยคุณลักษณะแห่งพระบิดา คือ พระเจ้าสูรย (วรมัน) นางได้ให้กำเนิดแก่ นเรนทราทิตย์ ผู้คล่องแคล่ว และเปรียบเสมือนดวงจันทร์ สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่
หลักฐานข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ที่ปรากฏในศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้ง ได้มีการศึกษาโดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี หลายท่าน อาทิ ศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดย์, สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี, ศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล, ศาสตาจารย์มานิตย์ วัลลิโภดม, รศ.ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์, คุณอำไพ คำโท เป็นต้น
หลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึก ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้กล่าวแสดงถึงผู้สืบเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์ ผู้ครองราชย์เมืองพระนคร (ในประเทศกัมพูชา ปัจจุบัน) มีความสัมพันธ์กับองค์นเรนทราทิตย์ ผู้ทรงสละความเป็นราชตระกูลมาบำเพ็ญพรตเป็นโยคี ณ เขาพนมรุ้ง บทที่ 8 บรรทัดที่ 15-16 ระบุให้สันนิษฐานได้ว่า
พระนางภูปตินทรลักษมีเทวี เป็นพระธิดาของกษัตริย์สูรยาวรมันที่ 2 ซึ่งครองราชย์ที่เมือง พระนคร ในระหว่างปี พ.ศ. 1655-1695 และ องค์นเรนทราทิตย์ เป็นพระโอรสขงพระนางภูปตินทรลักษมีเทวี ซึ่งต่อมาองค์นเรนทราทิตย์ ได้ทรงสละความเป็นราชตระกูลมาบำเพ็ญพรตเป็นโยคี โดยมีพระโอรสองค์หนึ่ง คือ เจ้าชายหิรัณยะ ซึ่งมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเจ้าชายหิรัณยะ คือ ผู้สร้างศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้ง หลักที่ 120
อำไพ คำโท ได้กล่าวถึง ศิลาจารึกปราสาทพนมรุ้งด้านที่ 4 บทที่ 27 บรรทัดที่ 6-8 มีข้อความในศิลาจารึก และคำแปลที่กล่าวถึง องค์นเรนทราทิตย์ และหิรัณยะ ดังต่อไปนี้
บทที่ 28
(บรรทัดที่ 5) ( ศิ ) ษฺยสฺ สุตศฺ จ สุปิตุสฺ สุคุโรรฺ นเรนฺทฺรา
(บรรทัดที่ 6) ทิตฺยสย โส ยมฺ อุทิโต วรุณารุกกว
(บรรทัดที่ 7) วิงฺศตยตีตวยสา สเมติษฺฐิปตฺ ตทฺ
(บรรทัดที่ 8) หิรณฺยชนกํ ส หิรณยนามา
คำแปลบทที่ 28
ศิษย์และบุตรของนเรนทราทิตย์ ผู้เป็นบิดาที่ที่และอาจารย์ที่ดี เขาได้ถือกำเนิดมาดั่งดวงอาทิตย์ จากมหาสมุทร... และเมื่อเขาอายุพ้น 20 ปี เขาก็ได้ให้ช่างสร้างประติมากรรมรูปอันนี้เป็นรูปแห่งบิดาของเขา หล่อขึ้นด้วยทอง เขาผู้นี้นามว่า หิรัณยะ
จากหลักฐานที่ปรากฏในศิลาจารึกพนมรุ้ง ทำให้เป็นข้อมูลสันนิษฐานได้ว่า เจ้าชายหิรัณญะ ผู้สืบสายราชวงศ์ มหิธรปุระ เป็นกษัตริย์ผู้ทรงสร้างอาณาจักรที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในอดีตนับพันปีในอาณาจักร หรือแคว้นอันเป็นที่ตั้งของปราสาทหินเขาพนมรุ้ง ปราสาทหินเมืองต่ำ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นดินแดนอันสงบสุขที่มีความโดดเด่น งดงามสูงส่งทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และโบราณคดี มอบไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าให้รุ่นลูกรุ่นหลานชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งมีกลุ่มชนที่อาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดในดินแดนที่เคยปกครองโดยกษัตริย์ราชวงศ์มหิธรปุระแห่งเมืองพนมรุ้ง